หน้าเว็บ

การลงทุนในตลาดหุ้น : อยากเล่นหุ้นต้องมีทุนเท่าไร?

เด็กสมัยนี้ Gen-X Gen-Y
อยากลาออกจากงานประจำ เลิกทำธุรกิจ

ตั้งใจออกมา เล่นหุ้น (Full Time Trader)
โดยมองว่า เป็นอาชีพที่สบาย รายได้สูง 

แต่คุณรู้มั้ย...
กว่า 95% ของคนที่คิดแบบนั้น
ล้วนต้องกลับไปทำงานเหมือนเดิม



ในตลาดหุ้น...
คุณสามารถสร้างรายได้จาก 2 ช่องทาง

1. รายได้จากกำไรส่วนต่างราคาหุ้น (Capital Gain)
2. รายได้จากเงินปันผล (Dividend Yield)

คำถามคือ "อยากเล่นหุ้น ต้องมีทุนเท่าไร?"
จึงสามารถเลี้ยงชีวิตตัวเองและครอบครัวได้


แนวทางที่ 1:  
เงินลงทุน 1,000,000 บาท 
ผลตอบแทน 20% ต่อปี
ค่าใช้จ่ายเดือนละ 50,000 บาท


แนวทางที่ 2:  
เงินลงทุน 2,000,000 บาท 
ผลตอบแทน 20% ต่อปี
ค่าใช้จ่ายเดือนละ 50,000 บาท


แนวทางที่ 3:  
เงินลงทุน 4,000,000 บาท 
ผลตอบแทน 20% ต่อปี
ค่าใช้จ่ายเดือนละ 50,000 บาท

กฎข้อที่ 1 : ห้ามขาดทุน
กฎข้อที่ 2 : อย่าลืมกฎข้อแรก

( วอร์เรน  บัฟเฟตต์ )


เคล็ดลับ "เกษียณเร็ว เกษียณรวย"

คลิ๊กเลย !!!

เพิ่มเพื่อน

การลงทุนในตลาดหุ้น : 3 ขั้นตอนก้าวสู่เทรดเดอร์มืออาชีพ

ชีวิตจริงของนักเล่นหุ้น...

ย้อนไปเมื่อปีที่แล้ว...
ผมตัดสินใจลาออกจากงาน
เพราะเพื่อนเล่าให้ฟังว่า...
เทรดหุ้นแค่วันเดียว กำไรมากกว่าเงินเดือน

ผมเชื่อและทำตาม...
เทรดตามโค้ช เทรดตามเซียน 
ทำกำไรได้ในทุกสภาวะตลาด

สุดท้าย เงินเก็บของผม 10 ปี หมดภายใน 1 เดือน
ผมโง่เองครับ ที่ตกเป็นเหยื่อคนพวกนั้น
ผมใช้หูเทรด (ไม่ได้ใช้หัวเทรด)


การเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพ ไม่ใช่เรื่องง่าย
คุณจำเป็นต้องผ่าน 3 ขั้นตอนนี้ให้ได้ก่อน

1. รักษาเงินต้นอย่าพึงมองกำไร :
5 ปีคุณจะเจอทุกๆสภาวะตลาดทั้งดีและร้าย
หน้าที่คุณคือ อยู่รอดให้ได้ก่อน

2. สร้างผลกำไรให้ได้สม่ำเสมอ :
สร้างผลตอบแทนให้ได้ 20 %ต่อปี 
(ชนะกองทุน ชนะเงินเฟ้อ)

3. เพิ่มขนาดพอร์ทการลงทุน :
เมื่อมั่นใจในระบบของตัวเองแล้ว
ค่อยเพิ่มขนาดพอร์ท
(กำไรจากการลงทุน > รายจ่าย)


กฎข้อที่ 1 : ห้ามขาดทุน
กฎข้อที่ 2 : อย่าลืมกฎข้อแรก

( วอร์เรน  บัฟเฟตต์ )


เคล็ดลับ "เกษียณเร็ว เกษียณรวย"

คลิ๊กเลย !!!

เพิ่มเพื่อน

การลงทุนในตลาดหุ้น : 3 สไตล์นักลงทุนมืออาชีพ

ตลาดหุ้นเปรียบเหมือน "สนามรบ"
มีแต่คนจ้องจะเอาเงินคุณ

กองทุน ต่างชาติ รายใหญ่ เจ้ามือ
ซึ่งพวกเขามี อาวุธครบมือ

ถ้าต้องการชนะเกมนี้...

คุณต้องรู้ก่อนว่า "ถนัดใช้อาวุธแบบไหน?"
แล้วเลือกลงเล่นในเกมที่ได้เปรียบเท่านั้น 



นักลงทุนมืออาชีพแบบที่ 1 :
นักลงทุนระยะสั้น ซื้อขายเร็ว 
เน้นสร้างกระแสเงินสด (Day Trade)

นักลงทุนมืออาชีพแบบที่ 2 :
นักลงทุนระยะกลาง ซื้อขายเป็นรอบๆ 
หวังผลตอบแทนจากส่วนต่างกำไรก้อนใหญ่ (Trend Follow)

นักลงทุนมืออาชีพแบบที่ 3 :
นักลงทุนระยะยาว ซื้อแบบลงทุน 
หวังผลตอบแทนจากเงินปันผล (Value Investor)


กฎข้อที่ 1 : ห้ามขาดทุน
กฎข้อที่ 2 : อย่าลืมกฎข้อแรก

( วอร์เรน  บัฟเฟตต์ )


เคล็ดลับ "เกษียณเร็ว เกษียณรวย"

คลิ๊กเลย !!!

เพิ่มเพื่อน

การลงทุนในตลาดหุ้น : อย่าพึงเป็นเซียน ถ้ายังไม่เรียน 3M

นักลงทุนมือใหม่...
พอเริ่มดูกราฟเป็น

เห็นสัญญาณ indicator 
บอกให้ซื้อ-ให้ขาย ก็จัดเต็ม

พอได้กำไรติดต่อกัน 2-3 ครั้ง
(อีโก้มา) 
คิดว่าตัวเองเป็นเซียนซะละ

คำถามคือ "ถ้าง่ายแบบนี้จริงๆ ก็คงรวยกันหมดแล้ว"


อย่าพึงเป็นเซียน...ถ้ายังไม่ได้เรียน 3 M

จิตวิทยาการลงทุน (Mindset) : 60%

- แนวคิดและอารมณ์มีผลต่อการลงทุน

การบริหารจัดการเงิน (Money Management) : 30%

- การควบคุมความเสี่ยง (Risk Management)


- การบริหารหน้าตัก (Portfolio Management)

กลยุทธ์การลงทุน (Method) : 10%

- การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (ลงทุนในหุ้นตัวไหน)


- การวิเคราะห์ปัจจัยเทคนิค
(ลงทุนในช่วงเวลาไหน)



กฎข้อที่ 1 : ห้ามขาดทุน
กฎข้อที่ 2 : อย่าลืมกฎข้อแรก

( วอร์เรน  บัฟเฟตต์ )


เคล็ดลับ "เกษียณเร็ว เกษียณรวย"

คลิ๊กเลย !!!

เพิ่มเพื่อน

การลงทุนในตลาดหุ้น : การเล่นหุ้นไม่น่ากลัวอย่างที่คิด

คุณเคยได้ยินประโยคนี้มั้ย?
"หุ้น คือ การพนัน" อย่าไปยุ่งเลย

คนรู้จัก หลายต่อหลายคน
ต้องหมดเนื้อ หมดตัว เพราะเล่นหุ้น

แล้วทำไม "คนจนเล่นหวย คนรวยเล่นหุ้น"



การเล่นหุ้นจะไม่น่ากลัวอีกต่อไป...

ถ้าคุณมีวินัยกับ 3 เรื่องต่อไปนี้

จิตวิทยาการลงทุน 1 
:
ไม่ควรเทรดด้วยจำนวนเงินที่มากเกินไป (Over trade) 
เสียแล้วทำใจไม่ได้

จิตวิทยาการลงทุน 2: 
เมื่อผิดทางขายทิ้งทุกกรณี (Cut loss) 
คนที่เจ๊ง เค้าคิดแบบนี้ "ไม่ขาย ไม่ขาดทุน" 

จิตวิทยาการลงทุน 3: 
ถ้าซื้อหุ้นถูกทางให้ถือทนรวย (Let Profit Run)  
ไม่ใช่เวลากำไรเอานิดเดียว 
แต่เวลาขาดทุนถือซะนาน


กฎข้อที่ 1 : ห้ามขาดทุน
กฎข้อที่ 2 : อย่าลืมกฎข้อแรก

( วอร์เรน  บัฟเฟตต์ )


เคล็ดลับ "เกษียณเร็ว เกษียณรวย"

คลิ๊กเลย !!!

เพิ่มเพื่อน